“ณวัฒน์” ประกาศชัด ไม่ขอเอานางงามจากเวที MUT และ นางสาวไทย เข้าประกวดเวทีของตัวเอง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป บอกเบื่อเหลือทนกับการที่เอาตนไปด่าทอ แถมยังเอาผลงาน และ สมบัติที่ตนอุตส่าห์สร้างมาไปอีก บอก ถ้าเกิดต้องการทำก็ให้สร้างเอาเองบ้าง
หลังจากที่เวทีกองแข่งขัน Miss Grand Thailand ของ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ออกจดหมายประกาศแจ่มชัดว่า จากนี้จะไม่รับนางงามที่มาจากเวที Miss Universe Thailand ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป และ นางสาวไทย ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป เข้าประกวดเวทีตนเด็ดขาด ล่าสุด เจ้าตัวมาออกรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 8 ณ อาร์เอส กรุ๊ป ถนนประเสริฐมนูกิจ ย้ำชัด ถึงปัจจัยว่า เบื่อกับการที่ต้องทนถูกอีกฝ่ายด่าทออยู่เสมอๆ แถมล่าสุด ยังมาฉก PD ของตนไปอีก
“ก็แจ่มชัดครับผม เนื่องจากว่า เรามีความรู้สึกว่า พวกเราไม่ได้อยากต้องการมีปัญหากระทบกระแทกจุกจิก เนื่องจากบ่อยครั้งที่ผ่านมา พวกเราก็รู้สึกว่ามันมีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน
โดยที่มีการขัดแย้งตลอด มันก็มาตลอดนะครับ อย่างได้แก่คณะกรรมการพิเศษ ที่ไปเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เวลาไปสัมภาษณ์ ก็ควรสัมภาษณ์ผู้เข้าประกวด แต่สัมภาษณ์ไปได้พักนึง ก็มากระทบกระแทกด่าทอเวทีพวกเรา หากแม้จะไม่เอ่ยชื่อเวที แต่ใครก็รู้ ว่ากำลังว่าใครอยู่ พวกเราก็รู้สึกไม่ค่อยแฮปปี้นะครับ ด้วยปกติคนเรา ก็ต้องมีมารยาทร่วมกัน
ต่อจากนั้น เน็ตไอดอลคนนี้ ก็ด่ามาเรื่อยๆ เราก็รู้สึกรำคาญ อย่างหงษ์ทอง ก็ไปถ่ายภาพกับเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แล้วก็บอกว่า ประเดี๋ยวจะมีโปรเจกต์ใหม่ร่วมกัน พวกเรามีความรู้สึกว่า พวกเราจากกันไม่ได้เลยเหรอ มันก็เริ่มอารมณ์เสีย รำคาญ หลัง ๆ ก็จะมีระบบ 77 จังหวัดอีก ในอีกหนึ่งเวที ก็ได้ช่างเถิด ทุกคนก็ทำเป็น แต่บังเอิญว่ามีการไปติดต่อ PD เราตลอดเวลา
คือ พวกเราต้องการอยู่ของเรา เราสร้างมาด้วยความยากลำบาก พวกเราก็ไม่ต้องการที่จะอยากกระทบกระเทือนกัน พวกเราเลยตัดสินใจว่า นางงามที่จะแข่งขันเวทีมิสแกรนด์ เราก็กล่าวว่าถ้าไป 2 เวทีนี้ เราจะไม่รับ แต่ก็มิได้มีความหมายว่า ทั้งหมดครับ มันยังมีเวทีอีกเยอะแยะมากมาย ในประเทศไทย เพียงแต่พวกเราเหนื่อยแล้ว ที่จะถูกการกระทบกระแทก และ ถูกการใช้งานในวัตถุดิบที่มันใกล้เคียงกันเกินไป”

ณวัฒน์ บอกทุกคนมีทางเลือก ตนก็มีสิทธิเลือกเช่นกัน
“ก็จะต้องยอมรับว่า เวทีมิสแกรนด์ เป็นเวทีที่ชัดแจ้งที่สุด อะไรที่อยากได้ ไม่อยากได้ พวกเราก็จะบอกชัดเจน เคสนี้เราก็บอกแน่ชัดว่าเราต้องการจะอยู่ของเราเพียงลำพัง ไม่อยากเกี่ยวกับใคร
โดยยิ่งไปกว่านั้น 2 เวที ที่เราประกาศไป เพราะหลังๆมานี่พวกเราก็ลงทุน และก็ทำงานของเราค่อนข้างหนัก ใครจะทำเวที 77 จังหวัด ยังไงเราก็ได้หมด บางคนกล่าวว่า เราออกกฎมา เพื่อบังคับไม่ให้ผู้หญิงมีทางเลือกบ้าง พวกเราไม่ได้บอกว่าห้ามไปครับ บางคนพูดเอาแต่ได้ เราไม่เคยที่จะบอกว่าห้ามไป แต่พวกเรากล่าวว่าให้เลือกไป จะเลือกไปที่ไหนก็ได้ ทุกเวทีในประเทศไทย แต่ถ้าเราบอก 2 เวทีนี้ คุณจะเลือกไปก็ได้
ไม่เลือกเราก็ไม่ใช่เรื่องผิด พวกเรามิได้สั่งห้ามเลือก พวกเราก็มีสิทธิที่จะเลือก คุณสมบัติในสิ่งที่พวกเราต้องการได้ คุณเองได้โอกาสที่จะเลือก คุณก็เลือกเวทีที่คุณต้องการได้ ผมว่ามันก็แฟร์พอเหมาะพอควร แต่ถ้าจะให้พวกเรายอมรับทุกอย่าง จำต้องยอม ทรหดอดทนทุกอย่าง จะต้องถูกกระทบกระแทก ไม่ว่าจะเป็นสปอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นกรรมการที่เชื้อเชิญ
ใครมานั่งด่าพวกเรา แล้ว 77 จังหวัด จำเป็นที่จะต้องมาตอด PD พวกเรา แล้วนางงาม มันก็วนอยู่อย่างงี้ พวกเราก็เบื่อ ด้วยเหตุว่าเวทีพวกเรา กว่าจะเทรนด์นางงามมาได้ ต่อให้เขาตกรอบ แต่พวกเรา ก็จำต้องใช้เวลาสำหรับในการเทรนด์ มีต้นทุนอยู่ร่วมกันเกือบจะเดือน พูดง่าย ๆ ว่าเบื่อนะครับ”
ตั้งกฎห้าม PD ของตนไปเกี่ยวโยงเด็ดขาด
“ถามคำถามว่า เพราะเหตุไรถึงควรจะเป็น 2 เวทีนี้ ก็เวทีอื่น เขามิได้มีอะไร คือการเชิญเน็ตไอดอลคนนึง มาเป็นกรรมการ ควรจะกล่าวถึงการสัมภาษณ์นางงาม ที่จะให้ผ่านเข้ารอบ แต่กลับลุกขึ้นมาด่าเวทีผม ต่อให้ไม่พูดชื่อเวที 100 คน ล้านคนที่ฟังอยู่ ก็รู้ว่าด่าทอใคร อันนี้ผมว่า มันไม่แฟร์ ควรที่จะมีการห้ามปราม ห้ามทำ หรือ สั่งอะไรใด ๆ แต่กลับเป็นที่สนุกสนานร่าเริง ของคณะกรรมการ รวมทั้งเจ้าของเวที
เป็นอะไรเหรอ เห็นเราเป็นมิสแกรนด์บันเทิงศิลป์ หรือ ยังไง บอกตรง ๆ ว่าเราเบื่อ พวกเราไม่อยากเกี่ยว ที่ออกมานี่ บอกตรง ๆ ว่าเบื่อ ไม่ต้องการยุ่ง ก็เท่านั้นเองนะครับ
อีกเวทีนึงก็ 77 จังหวัด แบบเดียวกัน และก็ยังติดต่อ PD พวกเราเยอะมาก พวกเรามึนหัว ถึงจำเป็นต้องออกกฎว่า ห้ามมี PD เข้าไปเกี่ยว กว่าจะสร้าง PD ได้ทุกคน จำต้องเข้าใจนะครับ ว่ามิสแกรนด์ปีนี้ ปีที่ 11 ระบบจังหวัดมีมา 8 ปี บางคนอยู่กับเรามาตั้งแต่ปีแรก จนถึงปีนี้ อย่างดังเช่นว่าภูเก็ต จังหวัดเชียงใหม่ ใครที่เก่ง ๆ ใครที่มีนางงามงาม ๆ ใครที่มีฐานะ หรือ มีความคล่องตัวสำหรับในการจัดการประกวดที่ดี
แน่ๆมันก็เป็นจุดมุ่งหมายของทุกคน แต่อยากที่จะให้ทุกคนเคารพในสิ่งที่พวกเราสร้าง ทุกคนสามารถสร้างด้วยตัวเองได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว คุณจำต้องใช้ความรู้ในการสร้าง ไม่มีอะไรดีหรอกครับถ้าคุณจะไปเอาของใครเขามา แต่ว่าสร้างจะอยู่กับพวกเราตลอดกาล
ผมอยากให้ทุกคนศึกษาวัฒนธรรมแบบงี้บ้าง ไม่ใช่มองเห็นใครดี ก็อยากจะดีกับเขาด้วย มันก็ไม่เหมาะสม มันก็ทำให้พวกเราหงุดหงิด พอเราอารมณ์เสียปั๊บ ถ้าพวกเราไม่ประกาศไป 77 คน 77 จังหวัด ก็อาจจะมีบางคนไปช่วยด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม มันก็ไม่ถูก
รวมทั้ง เวทีเรา คนละสไตล์ วัตถุประสงค์ก็ไม่ใช่ รวมทั้ง พวกเราก็เน้นว่า เวทีมิสแกรนด์ เป็นเวที เพื่อระบบประชาธิปไตยเท่านั้น มันก็แจ่มกระจ่างอยู่แล้วนะครับ”
บอกแต่ละเวทีจำต้องสร้างคนของตัวเองบ้าง
“ตกลงใจไม่นานนะครับ รำคาญสักพัก ก็ตกลงใจได้เลยครับ ตั้งแต่นี้ต่อไป พวกเราจะไม่ยอมทนใดๆอีกแล้ว เนื่องจาก เราทำทุกอย่าง เพื่อพัฒนาของเรานะ เราอยู่ในกรอบของพวกเราตั้งแต่หลังจากมิสยูนิเวิร์สเปลี่ยนเจ้าของ เรามิได้โฟกัสในการแข่งกับเวทีอื่นแล้ว พวกเราจะปกป้องทรัพย์สมบัติของพวกเราที่เป็นแกรนด์ทุกอย่าง ไม่ให้ใครมารบกวนเรามากมาย
แต่ถ้าหากใครจะเข้ามา พวกเราก็จะกล่าวว่าให้ทุกคนหยุด อยู่เท่านั้น เราจะไม่ให้ใครเอาวัฒนธรรมอะไร เข้ามาในแกรนด์ เนื่องจาก แกรนด์เราต้องการเป็นแกรนด์จริง ๆ ต่อจากนี้เป็นต้นไปเราจะดูแลตนเองหนักขึ้นนะครับ
ถามคำถามว่า มีออกเป็นลายลักษณ์อักษรไหม สำหรับ PD และ คนที่จะเข้ามาประกวด ตามหลักก็แค่นี้ ประกาศไปแล้วเป็นระเบียบเรียบร้อยครับ PD กับนางงามก็ประกาศแล้ว ว่าหากใครผ่าน 2 เวทีนี้มา PD ก็ห้ามรับเข้ามาเป็นผู้สมัครในจังหวัดนั้น ๆ ถ้า เห็น หรือ ทราบ ก็ขอให้สละสิทธิ์ทันที แต่ถ้าหากตั้งใจ PD ก็มีความผิด ในฐานะขาดคุณสมบัติในการร่วมมือ
ส่วน PD สามารถส่งนางงามไป 2 เวทีนั้นได้ไหม ก็ประกาศไปแล้วครับ ส่งนางงามก็มิได้ครับ PD ก็ควรจะเป็น PD ของเราด้วย ใครก็หวงสมบัติของใครครับ สร้างมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อย่างภูเก็ต สร้างมาตั้งแต่ยังไม่เคยคิดทำนางงาม แต่ในที่สุด ก็มองเห็นไปหลายเวทีอยู่แบบเดียวกัน ก็เพียงพอแล้ว ให้เวลายืมใช้พอเพียงแล้ว ทุกคนจำเป็นต้องสร้างเองกันบ้างนะ สังคมมันจะได้ถาวรครับ”

เปิดเผยขอพักแค่ 2 เวทีนี้ ส่วนเวทีอื่น ยังมาได้ปกติ
“ไปได้ครับ ศาลตายายก็มาได้ คือ มาได้หมด ผมบอกแค่ 2 เวทีนี้ มิสอะไรก็มีเยอะมาก เพียงแค่ 2 อันนี้ ปัจจุบันนี้ขอพักก่อน เนื่องจากว่า ด้วยพวกเราไม่อยากที่จะให้มีตำหนิไปมากกว่านี้ เอาจริง ๆ แล้วเหตุผลใหญ่ คือ ปล่อยให้กรรมการมานั่งด่าผม อันนั้นก็ไม่สมควรนะครับ ผมไม่กล้าทำกับใคร ถามว่า อันนั้น คือ ฟางเส้นสุดท้ายไหม ไม่ครับ ฟางเส้นแรกครับ (หัวเราะ) ฟางเส้นแรกที่รู้สึกไม่โอเค
อนาคตจะมีเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ด้วยไหม ไม่ครับ หากยังไม่มีผลกระทบอะไร ก็ไม่ได้หมายถึงทุกอัน ก็ยังไปด้วยกันได้ ไม่มีปัญหาหรอกนะครับ นี่ก็มิได้มีปัญหาครับ แต่คิดว่าอะไรก็โดนไปหมด อย่างตัวอย่างเช่น ผู้ครอบครองเวทีโทรศัพท์มาหาผม เปิดสปีกเกอร์ ผมก็โดน ไม่ต้องการเล่นอะไรแล้ว ไม่ได้โกรธเป็นส่วนตัวนะ แต่ว่าเราจะต้องรักษาเพอร์ฟอร์แมนซ์ ของ MGI เพราะปีนี้ เรามีแพลน ที่จะเติบโตค่อนข้างเยอะครับ”
เผยตอนนี้ปฏิบัติงานฟ้องไปบ้างแล้ว แต่ถ้ามีอีกก็ฟ้องอีก
“มันก็มิได้กล่าวถึงขนาดผิดกฎหมายหรอกครับ พวกเราก็ทนฟังถัดไป ถ้าเกิดอะไรที่มันจะก่อให้ ผลประกอบการของพวกเราต้องมีเกี่ยว พวกเราก็ออกกฎกติกาไปเรื่อย ก็เพียงเท่านั้น แต่ส่วนคนที่ถึงขนาดเข้าข่ายหมิ่นเหม่ผิดกฎหมาย พวกเราก็ดำเนินการอยู่แล้ว ในช่วงนี้ ซึ่งก็จะต้องโดนอยู่แล้วครับ
ตอนนี้ได้แจ้งความแล้ว เป็นที่เรียบร้อยในบางส่วน คือ ต้องพูดว่ามันมีทั้งจำเป็นต้องฟ้องที่สถานีตำรวจ รวมทั้งฟ้องที่ศาลด้วย ที่โรงพักในช่วงเวลานี้ก็ได้มีการฟ้องไปในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนความคืบหน้า เดี๋ยวจะอัปเดตให้ เนื่องจากว่า ผมไม่ได้เป็นสไตล์ที่ฟ้องแล้วเอามาโชว์ เพื่อให้คนต้องทราบ ผมรอคอยตอนไปดำเนินการ ด้านกฎหมายจริง ๆ นะครับ แต่การันตีว่า ฟ้องแน่นอน แล้วก็ฟ้องแล้วด้วยครับ
เบื้องต้นฟ้องหมิ่นประมาท ก็ออกจะแจ่มแจ้ง มากมายในทุกเรื่อง แล้วก็อย่างหมิ่นประมาทเพิ่มเติมก็ฟ้องอีก อย่างเช่น พูดว่าเกี่ยวกับทอง 700 ล้าน ซึ่ง วันนั้นก็บอกกระจ่างว่า องค์กรพวกเราผิดจากคำพูดที่เรียกให้ทนายความอีกคนนึง ไปฟ้องมา
มันก็เป็นการกล่าวที่กระจ่างแจ้ง ด้วยกระบวนการของมันสมบูรณ์อยู่แล้ว เพิ่งเพิ่มเป็นโบนัส เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา คือ ถ้าหากจะเพิ่ม เพิ่มได้ทุกวันแหละครับ แต่ผมก็ไม่เคยรู้เหมือนกัน ว่าเมื่อใดจะหยุดกันสักที ก็ช่างเถอะครับ สำหรับผม ก็ไม่ได้ซีเรียส แต่เสียเวลา ที่จำเป็นที่จะต้องไปศาลกัน”
บอกที่ทำ เพื่อปกป้องทรัพย์สมบัติของตัวเองเพียงแค่นั้น
“ไม่ได้ว่าพวกเราออกกฎแล้ว อยากได้นางงามใหม่ หรือ พลิกโฉมหรอกครับ แต่เราหวงในทรัพย์สิน และ ทรัพย์สมบัติของพวกเรา ที่พวกเราจำเป็นต้องฟื้นฟู และก็ พัฒนามันมา เราก็เลยอยากที่จะปกป้องรักษาเอาไว้เท่านั้นเองนะครับ และไม่ต้องการที่จะให้เกี่ยวนะครับ คือ นางงามของพวกเราจะไปไหนก็ได้นะครับ ผมไม่ว่า
แต่ถ้าไปแล้ว ก็ไม่ได้กลับมาเพียงแค่นั้นครับ อีกอย่างถ้าเกิดเวทีไหน จะออกกฎ ว่าไม่รับนางงามที่มาจากแกรนด์ก็ได้ครับ มันก็เป็นสิทธิเท่าเทียมกัน ทุกคนทำได้ ใครรู้สึกว่าคุณสมบัติข้อนึง ก็คือต้องไม่เคยสมัครเวทีมิสแกรนด์มาก่อน ก็บอกได้ครับ ไม่มีปัญหา
ความหนักใจไม่ตกอยู่ที่ผู้ประกวดหรอกนะครับ ยุคนี้ เขาจะต้องเลือก เขาต้องการเป็นใคร เขาอยากอยู่กับใคร เขามีสิทธิในการเลือก ฉะนั้น ในขณะนี้ นางงาม ไม่ใช่แค่ว่าไปเดินเพื่อประกวด มันจำเป็นต้องใช้ความคิด สำหรับการคำนวณ ว่าอนาคต คืออะไรครับ
เอาจริง ๆ มันเป็นการให้เขาเลือกนะครับ หากรู้สึกว่าเป็นการจำกัดสิทธิ เราเป็นบริษัทเอกชน พวกเราก็มีสิทธิที่จะเลือก ว่าจะเอา หรือไม่เอาอะไรก็ได้ นี่เป็นสิทธิโดยบริบูรณ์ แต่ถ้าพวกเราเป็นองค์กรของรัฐบาล มันก็อาจจะเป็นไปได้นะครับ แต่นี่ด้วยแนวทางของการทำงานเอกชน พวกเราสามารถบอกคุณสมบัติได้ ว่าพวกเราจะไม่เอาอะไร เราจะเอาอะไร ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ”

บอกถ้าหากแฟนนางงามมองเรื่องสิทธิเสรีภาพ สำหรับในการสมัคร กฎของตนเองก็จัดว่าให้สิทธิเสรีภาพสำหรับการเลือกแล้ว
“ถามคำถามว่า แฟนนางงามบางส่วน มีข้อคิดเห็นว่าหลักเกณฑ์ 2 ข้อ ขัดแย้งกับสิทธิเสรีภาพ สำหรับในการสมัครเหรอ เข้าใจผิดแล้ว คำว่าสิทธิเสรีภาพ คือสิทธิเท่าเทียม สำหรับการที่คุณจะเลือก คุณจะเลือกเขา หรือ เลือกพวกเราก็ได้ อันนี้คือสิทธิเสรีภาพ
เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวกับว่า คุณจะเลือกอะไรก็ได้ไปหมด มันมิได้ขนาดนั้นหรอกครับ เพราะสิทธิ มันก็จะต้องเคารพในกฎกติกาของคนอื่นๆด้วย ถ้าคุณอยากมาทางเราก็มาเลย แต่ถ้าหากคุณต้องการไปทางเขาก็ไปเลย หรือ คุณต้องการจะไปที่อื่น อีกตั้งเยอะตั้งแยะ คุณก็ไปได้
แต่อันนี้ที่คนพูดกัน ผมว่าน่าจะเป็นแฟนคลับของฝั่งโน้นมากกว่า ที่ตื่นตระหนกว่า อนาคตจะคืออะไร ก็เลยพยายามจะบอกว่าทำอย่างนี้มันไม่ถูก มันละเมิดสิทธิคนอื่นๆ หรือ จำกัดสิทธิผู้อื่น ผมไม่เคยละเมิดใคร และ ผมไม่เคยจำกัดสิทธิใคร ทุกอย่างทำด้วยการชะลอไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้น และเขาก็ยังคงมีสิทธิที่จะเลือก ในการใช้ชีวิตได้ปกติอย่างเดิม
แค่เพียงว่า เราก็มีกรอบของเรา ว่าเราจะรับแบบนี้ ถ้าเกิดเขารู้แล้ว เรามิได้พูดย้อนหลัง เราพูดตั้งแต่วันนี้ เดินต่อไปในอนาคต คนที่เคยประกวด 2 เวทีนี้มาแล้ว ในอดีตที่ผ่านมามาได้หมด ไม่ได้มีปัญหาเลย เวลาพวกเราทำอะไร พวกเราบอกปัจจุบันนี้ และก็ อนาคต พวกเรามิได้เอาอดีตมาด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าว คุณก็สามารถแพลนชีวิตของคุณ ใน วันนี้ และก็ ในอนาคตได้ครับ”
จากหัวข้อดังกล่าว ยังได้บอกอีกว่า ยังไม่ถึงขั้นปลด PD ที่มีปัญหา แต่ขอคุยทั้งสองฝ่ายก่อน
ทนายเจมส์ (นิติธร แก้วโต) เพิ่งจะส่งจดหมายมาที่ผม ผมได้ตรวจสอบ แล้วก็ ให้เจ้าหน้าที่ตอบทนายความเจมส์ไปแล้ว อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร คือ ได้คุยกับทาง PD เรียบร้อย ให้ไปสะสางภายใน 2 วัน จะจัดการด้วยวิธีไหนก็ตาม ได้แก่ คืนเงินบางส่วน อะไรที่ทำไปแล้ว อะไรที่ยังไม่ทำ หรือ ทำไม่ได้ ให้แจกแจงกันไป แต่จำเป็นต้องเคลียร์